เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลักด้านทิศเหนือเครื่องแรก (หมายเลข 2) เริ่มเดินเครื่องเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ทางด้านทิศเหนือเริ่มเดินเครื่องอย่างสมบูรณ์ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2548 โดยมีการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหมายเลข 9 กำลังผลิตเต็มกำลัง (9,800 เมกะวัตต์) ในที่สุด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 หลังระดับน้ำสูงถึง 156 เมตร ทางด้านใต้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลักหมายเลข 22 เริ่มเดินเครื่องเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2550 และเครื่องหมายเลข 15 เริ่มเดินเครื่องในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เครื่องที่หก (หมายเลข 17) เริ่มเดินเครื่องเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เพิ่มกำลังการผลิต ถึง 14.1 GW ซึ่งมากกว่า เขื่อนซานเสียต้าป้า (14.0 GW) ที่จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามกำลังการผลิต เมื่อเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลักเครื่องสุดท้าย (หมายเลข 27) เสร็จสิ้นการทดสอบขั้นสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2012 เครื่องกำเนิดไฟฟ้าหลักใต้ดินทั้ง 6 เครื่องก็ทำงานทั้งหมด โดยเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 22.5 กิกะวัตต์ [10]หลังจากเก้าปีของการก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบ โรงไฟฟ้าก็เดินเครื่องได้อย่างสมบูรณ์ภายในเดือนกรกฎาคม 2555